รุ่นนี้เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลาง ที่ต้องการเสถียรภาพและประสิทธิภาพสูงBrocade BigIron RX Switch มีรุ่นที่มี 4, 8, 16, 32 Slots ให้เลือกตามความเหมาะสม รองรับ Forwarding Capacity ได้ถึง 5.12 Tbps ขยายได้ถึง 1536 1 GbE หรือ 512 10 GbE Ports รองรับ Wire Speed และ Non-Blocking Performance
รูปประพรรณสัญฐานมีโครงสร้างเป็นลักษณะ Modular Passive Backplane Chassis มีขนาด Switching Fabric เท่ากับ 720 Gbps มีค่า Throughput ไม่น้อยกว่า 570 Mpps ที่ขนาด Packet 64 Bytes มีหน่วยประมวลผลแยกทำงานอิสระระหว่าง Control Plane และ Forwarding Plane เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่ง แผงวงจรควบคุม (Supervisor หรือ Management) หลักและสำรอง มีพอร์ต console แบบ RS-232 เพื่อต่อ Craft Terminal กำหนดค่าการทำงานของอุปกรณ์ และสำหรับตรวจสอบระบบได้ พร้อม Port แบบ 10/100/1000BaseTX จำนวน 1 ports เพื่อใช้ในการบริหารจัดการแบบ Out-of-Band management โดย Port เป็น Port ที่ออกแบบไว้สำหรับเฉพาะทำ Management เท่านั้นเพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์ เมื่อทำการเพิ่มแผงวงจรอีกหนึ่งแผงวงจร จะสามารถทำให้ Router ทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดและประสิทธิภาพไม่ลดลงเมื่อมีแผงวงจรใดวงจรหนึ่งชำรุดใช้งานไม่ได้เมื่อเพิ่มแผงวงจรแล้ว สามารถถอดหรือเพิ่มแผงวงจรใดวงจรหนึ่งได้โดยยังคงทำงานต่อเนื่องไม่หยุดและไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน แล้วจะทำให้มีความสามารถ Hitless software upgrade, Hitless Failover , Hitless layer 2 และ 3, BGP/OSPF Graceful Restart สามารถจัดเก็บ Log File และ Configuration ได้ อุปกรณ์มี Switch Fabric หลักและสำรองในลักษณะ N+1 Redundancy สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดเมื่อมี Switch Fabric ชุดใดชุดหนึ่งชำรุดใช้งานไม่ได้ สามารถทำการถอดหรือเพิ่ม Switch Fabric โดยยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์สามารถทำงานได้ต่อเนื่องโดยประสิทธิภาพไม่ลดลง เมื่อ Switch Fabric หลักหรือสำรองชำรุดใช้การไม่ได้ มีหน่วยจ่ายไฟเพียงพอเพื่อรองรับการติดตั้งใช้งานแผงวงจรเครือข่ายทั้งที่ติดตั้งตามโครงการนี้และเพิ่มในอนาคต (Full capacity /Full Load) พร้อมติดตั้งหน่วยจ่ายไฟสำรอง (Redundancy) AC Power Supply แบบ Internal และ Hot-Swappable เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องแม้มีชุดใดชุดหนึ่งชำรุดใช้งานไม่ได้ รองรับการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายแบบ Fast Ethernet, Gigabit Ethernet, 10 Gigabit Ethernet ได้โดยการเพิ่มโมดูล ติดตั้งแผงวงจรเครือข่ายที่มีคุณสมบัติ เป็นแบบ Hot swappable ติดตั้งแผงวงจรเครือข่ายที่มี Port แบบ 1000base-X GBIC หรือ SFP จำนวน Port รวมไม่น้อยกว่า 24 ports และเป็นแบบ Wire speed Non-Blocking เมื่อใช้งานพร้อมกันทั้ง 24 Port ติดตั้งแผงวงจรเครือข่ายที่มี Port แบบ 10/100/1000BaseTX จำนวน Port รวม 48 ports และเป็นแบบ Wire speed Non-Blocking เมื่อใช้งานพร้อมกันทั้ง 48 Ports ติดตั้งแผงวงจรที่มี Port แบบ 10 Gigabit Ethernet จำนวน Port รวม 4 ports และแต่ละแผงวงจรเป็นแบบ Wire speed Non-Blocking เมื่อใช้งานพร้อมกันทั้ง 4 Port พร้อม Optic แบบ 10GbE-LR จำนวน 2 อัน เมื่อติดตั้งแผงวงจรเครือข่ายและแผงวงจรอื่น ๆ ยังสามารถขยายระบบ ให้มี Port แบบ 10 Gigabit Ethernet เพิ่มเติมได้อีกไม่น้อยกว่า 16 ports ทุก Module ที่ติดตั้งเพิ่ม สามารถติดตั้งใน Rack มาตรฐานขนาด 19 นิ้ว ได้ สามารถทำงานกับระบบไฟฟ้าในประเทศไทยแบบ 220VAC, 50Hzได้ สนับสนุนการรักษาสภาพแวดล้อม เนื่องจากอุปกรณ์เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐาน ROSH และเป็นอุปกรณ์ประหยัดพลังงานโดยใช้พลังงานไฟฟ้ารวมแล้วไม่เกิน 2,500 Watts และแผ่ความร้อนไม่เกิน 10,000 บีทียูต่อชั่วโมง (Thermal Output :BTU/HR) ผ่านการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัย IEC, FCC, UL
คุณลักษณะเฉพาะทางด้านเทคนิคสามารถทำ Port Aggregations ตามมาตรฐาน IEEE802.3ad และพอร์ตสามารถอยู่ข้ามโมดูลกันได้ สนับสนุนการทำงานตามมาตรฐาน IEEE802.1w, IEEE802.1s, PVST, PVGST, IEEE802.1AB LLDP และ ANSI TIA 1057 LLDP-MED สนับสนุนการทำ Network Authentication ตามมาตรฐาน IEEE 802.1X, MAC Authentication, Multiple Devices per port Authentication, IEEE802.1X with Dynamic VLAN สนับสนุนมาตรการความปลอดภัยตาม E911 Location call service และ Lawful Intercept สามารถทำ routed protocol ได้แก่ IPV4, IPV6 และ IP Multicast และผ่านการทดสอบตาม IPv6 Ready Logo Phase – 1 สามารถทำ IPV4 routing protocol ได้แก่ Static Route, RIP, RIP2, OSPF, IS-IS และ BGP4 ได้ และ Policy Base Routing โดยสามารถทำมาตรการการรักษาความปลอดภัย MD5 Authentication สามารถทำ IPV6 routing protocol ได้แก่ Static Route, RIPng, OSPFv3, IS-ISv6 และ BGP4+ สามารถทำ IP Multicast routing protocol ได้แก่ PIM Sparse Mode, MBGP หรือ BGP4+ และรองรับการใช้งาน Triple Play สามารถรองรับปริมาณได้ 4,000,000 IPv4 Route entry , 64,000 IPv6 Route entry สามารถให้บริการ VLAN Stacking ด้วย IEEE802.1Q Tunneling หรือ Q-in-Q ได้ สามารถกำหนดคุณภาพการให้บริการ ตามมาตรฐาน Weighted Fair Queuing (WFQ) หรือ Weight Round Robin (WRR) หรือ Weighted Random Early Detection, Traffic Policing และสามารถทำ packet classification ด้วย Source/Destination IP, Source/Destination Application port, 802.1p COS, และ DiffServ Code Point (DSCP) พร้อมการทำ Marking และ Re-marking ระหว่างค่า QoS ข้อมูลขาเข้าหรือขาออก สามารถกำหนดการป้องกัน DoS Attack ได้ และสามารถทำงานเป็น IDP/IDS ได้เมื่อทำงานร่วมกับโปรแกรมบริหารเครือข่าย สามารถกำหนดการป้องกันการส่งผ่านข้อมูลด้วย Access Control List (ACL) ในระดับ Layer 3-4 ได้ไม่น้อยกว่า 4,000 รายการต่ออุปกรณ์ (per chassis) โดยสามารถเลือกที่จะป้องกันข้อมูลขาเข้า (Ingress) หรือ ขาออก (Egress) โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงาน (Forwarding Throughput) ลดลง มีความสามารถในการป้องกัน IEEE802.1X Authentication, จำกัดจำนวน MAC ต่อ Port (MAC per Port limit) , ป้องกันอุปกรณ์จากการที่มีอุปกรณ์อื่นทำงานเป็น Root Bridge (Bridge Root Guard), BPDU Guard, IP source guard และ Dynamic ARP inspection. (DAI) มีความสามารถจัดเก็บข้อมูลสถิติการใช้งานเครือข่าย (IP flow usage statistic) โดยการจัดเก็บข้อมูลจะต้องทำการจัดเก็บข้อมูล Source/Destination IP, Source/Destination Interface, Protocol, TOS, Packets count และ Byte count แยกของแต่ละ VLAN หรือ IP Sub-net สามารถเปิดใช้งานได้ทุก Port พร้อมกันโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ สนับสนุนการทำ Billing และ Accounting สามารถบริหารและจัดการผ่าน CLI, Telnet, SSH, SNMPv3 และ RMON
จุดเด่น คือ ประหยัดพลังงาน บริหารจัดการง่าย มีประสิทธิภาพ และสมรรถภาพ สูงยิ่ง
เหมาะที่สุดครับ..
ติดต่อ 0827823346
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น